บทที่ ๖
บทที่
๖ โคลงสุภาษิต
พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ ๕) แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ (พระปิยมหาราช)
ลักษณะคำประพันธ์
โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์
เป็นโคลงสี่สุภาพ ๑๘ บท
โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ เป็นโคลงสี่สุภาพ
๑๒ บท
โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ เป็นร้อยแก้ว
และสรุปด้วยโคลงสี่สุภาพ(เป็นสุภาษิต)มีทั้งหมด ๔ เรื่อง คือ ราชสีห์กับหนู ,
บิดากับบุตรทั้งหลาย
, สุนัขป่ากับลูกแกะ
, กระต่ายกับเต่า
ที่มาของเรื่อง
โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์
เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(เดิมเป็นสุภาษิตภาษาอังกฤษจึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กวีในพระราชสำนักแปลและประพันธ์เป็นโคลงภาษาไทย
พระองค์ท่านได้ทรงตรวจแก้และทรงพระราชนิพนธ์โคลงบทนำด้วย)
โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ เช่นกัน (โดยทรงแปลมาจากโคลงเดิมที่เป็นภาษาอังกฤษ)
โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ เช่นกัน (โดยทรงแปลมาจากโคลงเดิมที่เป็นภาษาอังกฤษ)
โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ
เป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ เช่นกัน โดยทรงแปลมาจากนิทานกรีกฉบับภาษาอังกฤษ
เพราะสมัยนั้นคนไทยนิยมอ่านเรื่องที่แปลมาจากวรรณคดีตะวันตกกันมาก
โดยเฉพาะนิทานอีสป เพราะไม่ผูกติดกับขนบธรรมเนียมประเพณี
และค่านิยมของชาติใดชาติหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแปลนิทานอีสปไว้ทั้งหมด ๒๔ เรื่อง
และทรงพระราชนิพนธ์โคลงสุภาษิตประกอบนิทานร่วมกับกวีอีก ๓ ท่าน คือ
กรมหลวงพิชิตปรีชากร พระยาศรีสุนทรโวหาร และ พระยาราชสัมภารากร ซึ่งรวมเรียกว่า “โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ”
จุดประสงค์ในการแต่ง
- โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ และ
โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ
มีจุดประสงค์ในการแต่งเพื่อต้องการจะอธิบายสุภาษิตที่เกี่ยวกับนามธรรมซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับคนทุกคน
ทุกฐานะ ทุกอาชีพ
ได้นำไปเป็นเครื่องโน้มนำให้ประพฤติชอบอย่างผู้มีสติและมีความปลอดโปร่งในชีวิต
- โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ
มีจุดประสงค์ในการแต่งเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้อ่านให้ พิจารณาคำสอนที่ได้จากนิทานเรื่องนั้นๆ
เนื้อเรื่อง
สาระสำคัญ
โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์
กล่าวถึงสิ่งที่ควรปฎิบัติและสิ่งที่ควละเว้น ๑๖ หมวด หมวดละ ๓ ข้อ รวม ๔๘ ข้อ
ดังต่อไปนี้ว่าด้วยความสามอย่าง กล่าวถึง
นักปราชญ์ได้แสดงเนื้อหาเป็นเรื่องสอนใจไว้อย่างครบครันเป็น ๑๖ หมวด หมวดละ ๓ ข้อ
เพื่อเป็นแม่บทให้แก่บัณฑิตผู้ที่มุ่งความหวังความสุข ขจัดความทุกข์
และมุ่งสร้างคุณงามความดีไว้เป็นที่สรรเสริญต่อไปได้ประพฤติและปฎิบัติตาม
โคลงสุภาษิตนฤทุมการ กล่าวถึง ๑๐ ประการ
ที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ เพราะเป็นความประพฤติดีในไตรทวาร (กาย วาจา ใจ )
อันจะยังให้เกิดผลดีแก่ผู้ประพฤติเองและต่อสังคมส่วนรวม
๑.เพราะความดีทั่วไป
๒.เพราะไม่พูดจาร้ายต่อใครเลย
๓.เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน ๔.เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด
๕.เพราะอดพูดในเวลาโกรธ ๖.เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน
๗.เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด ๘.เพราะอดกลั้นต่อผู้อื่น
๙.เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนินทา ๑๐.เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย
ที่กล่าวมาทั้ง ๑๐ ประการนี้ แม้จะกระทำตามได้ไม่หมดทุกข้อ
กระทำได้เป็นบางข้อก็ยังดี
โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ
๑.ราชสีห์กับหนู
มีราชสีห์ตัวหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่
มีหนูตัวหนึ่งวิ่งขึ้นไปบนหน้าทำให้ราชสีห์ตกใจตื่นและโกรธพร้อมกับจับหนูไว้ได้และจะฆ่าเสีย
แต่เจ้าหนูได้อ้อนวอนขอชีวิตไว้แล้วจะตอบแทนคุณในภายหลัง
ราชสีห์หัวเราะแล้วก็ปล่อยเจ้าหนูตัวนั้นไป ต่อมาราชสีห์ถูกนายพรานจับมัดไว้ด้วยเชือกหลายเส้นส่งเสียงร้องดัง
จนเจ้าหนูนั้นได้ยินมันจึงมาช่วยกัดเชือกจนขาดช่วยชีวิตราชสีห์ไว้ได้
๒.
บิดากับบุตรทั้งหลาย
กล่าวถึงชายผู้หนึ่งมีบุตรที่ทะเลาะกันมิได้ขาด
ผู้เป็นบิดาจะตักเตือนอย่างไรพวกเขาก็ไม่ฟัง
ผู้เป็นบิดาจึงหาทางแก้ไขด้วยการสั่งให้บุตรทั้งหลายหาไม้เรียวให้กำหนึ่ง
แล้วให้บุตรนั้นหักให้เป็นท่อนเล็กๆแต่พวกบุตรก็ไม่มีใครสามารถหักได้เลยสัก
ผู้เป็นบิดาจึงแก้มัดไม้เรียวกำนั้นออก แล้วส่งให้บุตรหักทีละอัน
ปรากฏว่าทุกคนหักได้โดยง่าย ผู้เป็นบิดาจึงสอนบุตรว่า “ หากพวกเจ้ามีความสามัคคีกันรักกันดุจไม้เรียวกำนี้ก็จะไม่มีใครมาทำร้ายพวก
เจ้าได้ แต่ถ้าพวกเจ้าต่างคนต่างแตกแยกทะเลาะวิวาทกันเช่นนี้ก็จะมีภัยอันตรายได้
ก็จะเป็นประดุจไม้เรียวทีละอันที่ถูกทำลายได้โดยง่าย”
๓. สุนัขป่ากับลูกแกะ
กล่าวถึงสุนัขป่าตัวหนึ่งมาพบลูกแกะหลงฝูงตัว หนึ่ง
มันคิดจะกินลูกแกะเป็นอาหาร จึงได้ออกอุบายกล่าวโทษเจ้าลูกแกะต่างๆนานา
เพื่อให้ลูกแกะเห็นว่าตนมีความผิดจริงสมควรที่จะให้สุนัขป่าจับกินเป็นอาหาร
แต่ลูกแกะก็ไม่ยอมรับ ในที่สุดด้วยความเป็นพาลเจ้าสุนัขป่าก็จับลูกแกะกินจนได้
๔.
กระต่ายกับเต่า
กล่าวถึงกระต่ายตัวหนึ่งหัวเราะเยาะเต่าที่เท้า สั้นเดินช้า
เต่าจึงท้ากระต่ายวิ่งแข่งกัน โดยให้สุนัขจิ้งจอกเป็นผู้เลือกทาง
และกำหนดที่แพ้ชนะให้ พอถึงวันกำหนด ทั้งเต่าและกระต่ายก็ออกเดิน
เริ่มต้นที่จุดเดียวกัน
กระต่ายนั้นเชื่อมั่นว่าตนขายาวและวิ่งเร็วกว่าจึงเผลอพักหลับไป
ครั้นพอตื่นขึ้นมาวิ่งไปโดยเร็ว พอถึงเส้นชัยก็เห็นว่าเต่าอยู่ที่นั่นก่อนนานแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น