บทที่ ๑
บทที่ ๑ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
ผู้แต่ง
ผู้แต่ง
โคลงพระสุริโยทัยขาดคอช้าง
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โคลงพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิต
พระนิพนธ์พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร
(พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์)
ลักษณะคำประพันธ์ โคลงพระสุริโยทัยขาดคอช้างแต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ ๖ บท
โคลงพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิตแต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ ๔ บท
ที่มาของเรื่อง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ ๕) ทรงให้ช่างเขียนที่มีฝีมือเขียนรูปภาพ
และให้มีโคลงบอกเรื่องพระราชพงศาวดารที่เขียนรูปภาพติดประจำทุกกรอบ รูปใหญ่ ๖ บท
รูปเล็ก ๔ บท มีทั้งหมด ๙๒ ภาพ โคลงที่แต่งมีจำนวนทั้งหมด ๓๗๖ บท
สร้างเสร็จสิ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๐ และไปประดับที่พระที่นั่งวโรภาษพิมาน
พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื้อเรื่อง
โคลงพระสุริโยทัยขาดคอช้าง
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
พระเจ้าแผ่นดินสยาม จึงนำกำลังพลออกตั้งค่ายเตรียมรับศึกและดูกำลังฝ่ายตรงข้าม
แล้วนำกำลังพลออกมากลางสนามรบ สมเด็จพระสุริโยทัย
พระมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ได้แต่งองค์ทรงเครื่องเยี่ยงชาย
เป็นชุดออกศึกเฉกเช่นมหาอุปราช แล้วทรงช้างเข้าร่วมรบ
กองทัพหน้าของทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน
ช้างทรงของพระเจ้าแปรได้ชนช้างกับพระมหาจักรพรรดิ
พระมหาจักรพรรดิเสียทีเพลี่ยงพล้ำพระเจ้าแปร
สมเด็จพระสุริโยทัยเกรงว่าพระสวามีจะสิ้นพระชนม์ จึงได้ไสช้างเข้าขวางพระเจ้าแปรและสูกับพระเจ้าแปรแทน
พระเจ้าแปรได้เอาง้าวฟันสมเด็จพระสุริโยทัยขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์บนคอช้าง
สองพระโอรสคือพระราเมศวรและพระมหินทราได้กันพระศพแล้วนำเข้าสู้พระนคร
สมเด็จพระสุริโยทัยสิ้นพระชนม์ไปแล้ว จึงเหลือแต่คำสรรเสริญไว้
โคลงพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิต
พระเจ้าสรรเพชรที่ ๘ ของกรุงศรีอยุธยา
ได้เสด็จ ออกประพาส เพื่อออกไปทรงปลา(ตกปลา) โดยประทับเรือพระที่นั่งชื่อเรือ
เอกไชย ถึงที่โขกขาม ด้วยความที่คลอง โขกขาม นั้น มีความคดเคี้ยวมาก
จึงทำให้หัวเรือพระที่นั่งแล่นไปชนกับไม้จนหัวเรือพระที่นั่งหัก พันท้ายนรสิงห์ตกใจเป็นอย่างมาก
จึงกระโดดลงจากเรือพระที่นั้ง และขอให้พระเจ้าสรรเพรช ประหารชีวิตตน และทูลขอให้นำศีรษะของตนกับหัวเรือที่หัก ไปฝั่งไว้ด้วยกัน พระเจ้าสรรเพรชร
เห็นว่าไม่ใช่ความผิดของพันท้ายนรสิงห์ จึงไม่ยอมลงโทษ แต่พันท้ายไม่ยอม จะให้
พระเจ้า สรรเพรชประหารชีวิตตนให้ได้ พระเจ้าสรรเพรช จึง ยื่นข้อเสนอให้ ว่า
จะสร้างรูปเหมือน ของพันท้ายนรสิงห์และฟันหัวรุปปั้นนั่นแทนศีรษะของพันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอม
พร้อมทั้งยังทูล กับพระเจ้าสรรเพรชที่ไม่ทำตามกฏมนเฑียรบาล ที่กล่าวไว้ว่า
ผู้ใดทำทรัพย์สินของพระมหากษัติเสียหาย จะต้องได้รับโทษดดยการประหารชีวิต
พระเจ้าสรรเพรชจึงต้องทำตามคำร้องของพันท้ายนรสิงห์ และเมื่อ
พันท้านนรสิงหืเสียชิวิต พระเจ้าสรรเพรช
จึงได้ทรงโปรดเกล้าฯให้นำศรีษะของพันท้ายนรสิงห์ และหัวเรื่อพระที่นั่ง ไปฝั่ง
และสร้างศาล ขึ้นเพื่อ แสดงถึงคุณงามความดี ที่พันท้ายนรสิงห์ได้ทำไว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น